“พริก” แซ่บได้แต่พอดีเป็นประโยชน์ ป้องกันโรคพาร์กินสัน-มะเร็งปอด

อาหาร28-10-65

“พริก” เม็ดเล็กๆแม้กระนั้นแซ่บสะใจ จะต้องบอกเลยว่าพริกเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชาวไทยมานานเพราะว่าคนประเทศไทยเป็นคนรับประทานเผ็ดก็เลยจะอยู่หลบซ่อนในทุกรายการอาหาร นอกเหนือจากความแซ่บของน้องแล้ว

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคเกิดใหม่ แผนกแพทยศาสตร์ จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟชบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่า การกินสารช่วยรสหวานไม่มีน้ำตาล จากที่มีการเล่าเรียนในสัตว์ทดสอบ ที่มีแมนนิทอล (mannitol) ก็บางทีอาจช่วยคุ้มครองชะลอโรคได้ กล่าวในนิตยสารประสาทวิทยา (Annals of neurology) ช่วงวันที่ 9 เดือนพฤษภาคม 2556 พบว่า การกินพริกสดทำให้ลดการเสี่ยงของการเป็นโรคพาร์กินสัน ด้วยเหตุว่าพริกอยู่ในเครือญาติ Solanaceae (capsicum และก็ solanum)

อาหาร28-10-65

เหมือนกับยาสูบ มีหลักฐานมากมายก่ายกองเป็นอย่างมากไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 60 รายงาน ที่ศึกษาค้นพบว่าคนดูดบุหรี่ได้โอกาสเป็นพาร์กินสันลดน้อยลง แม้กระนั้นไม่มีผู้ใดต้องการตายจากโรคมะเร็ง โรคปอดจากการสูบยาสูบ รายงานนี้จับหลักสำคัญตรงที่ พริก มีจำนวนนิโคตินสูง ด้วยเหตุผลดังกล่าว บางทีอาจจะได้ผลอย่างกับการสูบยาสูบ จากการประมาณผู้เจ็บป่วยพาร์กินสัน 490 ราย เปรียบเทียบกันคนธรรมดา 644 ราย เกี่ยวกับการกิน ของกินและก็ประเภทของเครื่องปรุง พบว่าผู้ที่บริโภคพืชที่อยู่ในเครือญาติ Solanaceae สมาคมกับการไม่กำเนิดโรคพาร์กินสัน รวมทั้งชะลอโรค เมื่อเป็นแล้วประเภทของของกินที่สำคัญที่สุดเป็น พริก และก็ลดการเสี่ยงได้ถึง 30% แม้กระนั้น ยังไม่เคยรู้ว่านิวัวว่ากล่าวนอปิ้งเดียวหรือมีสารอื่นๆในพริกที่ช่วยคุ้มครองปกป้องไม่ให้กำเนิดพาร์กินสันณ ตอนนี้โรค โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์รวมทั้งพาร์กินสันเริ่มจะรู้ดีว่ามีกลไกพยาธิเกิดคล้ายคลึงกันในทางของการเกิดพิษ แล้วก็การส่งทอดถ่ายพิษไปตามโครงข่ายโยงใยประสาท และก็ตัวดรรชนีชีวภาพ (biomarker) ก็พ้องใกล้เคียงกันหลายตัวดังนั้นคงจะไม่แปลกครับถ้าเกิดจะเคียงพริกเข้าประกอบในรายการอาหารหรือเครื่องปรุงของกิน อย่างต่ำก็ดีแล้วกว่าจำเป็นต้องรับประทานยาเป็นกำ แพทย์อย่างพวกเราๆจำต้องแปลงทัศนคติ ความนึกคิดที่จะใช้ยาเพื่ออาการโรคดูดีขึ้น แม้กระนั้นไม่อุตสาหะคุ้มครองปกป้อง ชะลอการยืนขึ้นลุกลามของโรค การกระทำตัวให้ถูก จำพวกของของกิน การออกกำลัง เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องไม่ไม่เอาใจใส่

นอกจากนั้น พริกยังมีสาระอีกหลายด้าน ทั้งยัง

  • ลดความอ้วน กระตุ้นระบบเผาผลาญ ซึ่งเป็นสารก่อความร้อนภายในร่างกาย เกิดผลดีต่อระบบเผาผลาญ ช่วยกระตุ้นการเผาไหม้เจริญ โดยมีการเรียนรู้จากญี่ปุ่นพบว่า การทานพริก 10 กรัม ช่วยเพิ่มอัตราการเผาภายในร่างกายได้อย่างเร็ว และก็นานถึง 30 นาทีอย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่าจะให้ทานพริกใหม่ๆเป็น 10 กรัมเลยก็อาจไม่ไหว ก็เลยชี้แนะทดลองหันมาทานพริกในต้นแบบสารสกัดมองเพื่อไม่ให้เป็นภาระหน้าที่กระเพาะกระทั่งเกิน
  • ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วก็เจริญอาหาร เนื่องจากว่าในพริกจะเข้าไปกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งช่วยทุเลาลักษณะการเจ็บปวด ทั้งยังยังลดการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เครียด ช่วยทำให้พวกเราจิตใจเบิกบาน แจ่มใส ทำให้ความดันเลือดต่ำลง แล้วก็ทานอาหารอร่อยขึ้นด้วย
  • ลดการเสี่ยงโรคมะเร็ง โดยวิตามินซีในพริกมีฤทธิ์ยั้งการผลิตไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร แถมยังช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่หยุดการแพร่ขยายของเซลล์ของมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งปอดแล้วก็โรคมะเร็งโพรงปากได้

ข้อควรคำนึง

สารแคปไซซิน ในพริกมีฤทธิ์นำมาซึ่งอาการเคืองต่อเยื่อ ฉะนั้นในผู้ที่รับประทานพริกมากมาย (รับประทานเผ็ดจัด) บางทีอาจมีการเคืองตั้งแต่เยื่อในปาก รวมถึงระบบทางเดินอาหารทั้งผอง อีกทั้งกระเพาะแล้วก็ไส้ ซึ่งอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อน กระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะ รวมถึงอาจจะส่งผลให้ท้องเดินได้ ด้วยเหตุดังกล่าวคนเจ็บไข้ได้ป่วยกระเพาะอยู่แล้วไม่สมควรรับประทานพริกหรือรับประทานรสเผ็ดมากมาย รวมถึงเด็กและก็คนสูงอายุด้วยเนื่องจากเสี่ยงหลอดลมหดเกร็ง ตีบ บวม หายใจไม่ออก ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย

ดื่มน้ำไม่หายเผ็ดถ้าเช่นนั้นมารู้กลเม็ดหาเผ็ดจากพริกกัน

  • การดื่มนม
  • น้ำมันท้องนาว
  • อมน้ำมันที่ทำจากมะกอก
  • อมน้ำเหลือเจือจาง